ซันคอนัวร์น้องมีอาการป่วยมา6วันแล้ว วันแรกอาการตื่นเช้าอ้วก แล้วก็ถ่ายในบ้านนอน ต่อมาก็ซึมไม่เล่นเหมือนแต่ก่อน ช่วงบ่ายพาไปหาหมอรพ.ใกล้บ้าน หมอเอ้กซเรย์ ผลออกมาคือ ตับโต มีแก๊สในลำไส้ ตรวจอุจจาระ มียีสต์ ตรวจน้ำลายไม่มีเชื้อ หมอให้ยามากิน

1.metoclopramide syrup(ยาลดอาเจียน)

2. Itraconalezone(ยาต้านเชื้อรา)

3.meloxicam(ลดปวด)

4.liquid hepato(ยาบำรุงตับ)

5.liquid paraffin(หล่อลื่นทางเดินอาหาร)

ตอนนี้ทานยามา6วันแล้ว แต่ยังมีอาการซึม ไม่ค่อยมีแรง ถ่ายอุจจาระทีละนิดมีฟอง ถ่ายบ่อยมาก กลางคืนก็ถ่ายตลอด ยืนบนคอนตลอดไม่เข้านอนในบ้าน สงสารน้องมาก ไลน์ถามหมอ หมอบอกยังกินอาหารได้ยังไม่เป็นไร เดี๋ยววันอังคารนี้หมอนัดตามอาการ สอบถามผู้รู้ครับว่าน้องเป็นอะไรครับ แล้วจะหายไหม ใจคอไม่ดีเลย ทำไมหมอถึงไม่ต่ายยาฆ่าเชื้อมาให้ รบกวนด้วยนะครับ

ต่อจากข้างบน อุจจาระน้องเป็นสีเขียว บางทีก็มีแต่ยูเรต บางทีก็ไม่มีปัสสาวะ ออกมา แต่จะอุจจาระชั่วโมงละ1-2ครั้ง แต่ครั้งละนิด

เป็นเคสเียวกันกับคุณสุธีไหมครับ เพราะอาการเดียวกันเลย ผมได้ตอบไปแล้วในส่วนคุณสุธี ถ้าเป็นคนละกรณีก็จะคล้ายกันนะครับ

ตอบในส่วนที่สองแทน ตามที่เคยแจ้งคุณสุธีถึงอาการ และหากพบว่ามีการถ่ายเป็นสีเขียวเข้มมากกว่าปกติ และมียูเร็ตมักบ่งชี้ว่าเป็นปัญหาที่ตับจากการผลิตเอนไซม์ในตับได้แย่ลง ทำให้มูลออกมาเขียวมากขึ้น และคราบยูเร็ตมีมากกว่าร้อยละ 50 ของมูลมักบ่งชี้ภาวะโปรตีนสูงจากอาหารหรือจากการสลายของร่างกาย การเสื่อมสลายของกล้ามเนื้อมากเกินไป เช่น การอักเสบ การออกกำลัง การบาดเจ็บ และโรคไต

ในกรณีที่เริ่มพบหลายอาการร่วมกัน และไม่ตอบสนองต่อการรักษาเมื่อเวลาผ่านไปแล้วหลายวัน ควรกลับไปตรวจซ้ำ เพราะยาที่ให้อาจมีการดื้อยาและไม่ครอบคลุมโรคที่อาจซ่อนอยู่ เช่น โรคไข้นกแก้วที่เกิดจากเชื้อคลามัยเดีย ที่มักเกิดกับปอด ตับ และโรคติดเชื้ออื่นๆ ที่สามารถทำให้เกิดการอักเสบทั่วร่างกายได้ครับ และยาที่ได้รับมายังไม่ได้ครอบคลุมกาติดเชื้อเหล่านี้ เพราะในครั้งแรกที่ไปตรวจอาจตรวจพบกลุ่มแคนดิดาในทางเดินอาหารมาก ซึ่งหากมีการเจริญเติบโตมาก แตกหน่อหรือสร้างสายใยจะเป็นช่วงก่อโรคได้และทำให้ท้องเสีย อาเจียน และลำไส้อักเสบได้ครับ แต่หากไม่ตอบสนองเลย แม้ว่าจะให้ยากระตุ้นทางเดินอาหารแล้วซึ่งในนั้นมี และยังพบว่ากระเพาะพักไม่เคลื่อน ไม่ค่อยขับถ่าย อาจต้องเอกซเรย์ซ้ำและทำการตรวจเชื้อไวรัส เช่น PDD ซึ่งได้แจ้งสำหรับคุณสุธีไปแล้ว ควรกลับไปพบสัตวแพทย์ เพื่อทำการวินิจฉัยเพิ่มเติม

นอกจากนี้เมื่อเกิดโรคในระยะแรกจากเชื้ออื่นๆ ใดก็ตาม เช่น จากราหรือยีสต์ในทางเดินอาหาร ซึ่งจะใช้เวลาในการรักษานานกว่าเชื้อแบคทีเรีย สิ่งที่ต้องประเมินคือ อาการค่อยๆทุเลาหรือไม่ เพราะจะไม่หายในทันที ขณะที่เชื้อแบคทีเรียหากได้รับยาจะดีขึ้นไวกว่า โดยปรกติหมอจะบอกว่าถ้าในสองวันไม่ดีขึ้น วันที่สามต้องรีบกลับมาเพราะหากเป็นท้องเสียจากแบคทีเรียจะหายไวกว่าและส่วนใหญ่จะเป็นแบบหายได้ด้วยตนเอง หากไม่มีอาการของระบบอื่นแทรกซ้อน เหมือนเราที่ท้องเสียแล้วหายเองโดยไม่ต้องกินยาต้านเชื้อ อย่างไรก็ตาม หากมีโรคอื่นที่เป็นสาเหตุอื่นซ่อนอยู่ เช่น ไวรัสตามที่เคยเล่า หรือไข้นกแก้ว หรือแบคทีเรียที่รุนแรงร่วมกับยีสต์กลุ่มแคนดิดา ที่เมื่อเริ่มเกิดติอเชื้อแทรกซ้อนร่วมกันแล้ว ก็มักจะใช้เวลานานขึ้น และหากพบว่ามีอาการตับโตหรือเสียหาย ปอดเสียหาย ทางเดินอหารเสียหาย การกำจัดเชื้ออาจจะสำเร็จแล้วแต่ต้องใช้เวลาในการหายและซ่อมแซมของอวัยวะและเนื้อเยื่อที่เสียหายอยู่ดี ซึ่งขึ้นกับควมรุนแรงของแต่ละตัวครับ ขอให้หายไวไวนะครับ และควรไปพบหมอก่อนนัดได้หากอาการไม่ทุเลาเลย