แพรวา

แพรวา

ผู้เยี่ยมชม

  ไก่ชนป่วย (605 อ่าน)

26 พ.ค. 2566 12:34

คอดังน้ำลายเหนียวขี้เขียวขาว

แพรวา

แพรวา

ผู้เยี่ยมชม

หมอไก่ชน ขวัญคำ

หมอไก่ชน ขวัญคำ

ผู้เยี่ยมชม

26 พ.ค. 2566 19:13 #1

ตามอาการแยกออกเป็น 4 กลุ่ม แต่สามารถเกิดจากสาเหตุเดียวกันได้ สาเหตุที่กล่าวถึงคือ การติดเชื้อโปรโตซัว Trichomonas หรือโรคคอดอก ซึ่งจะทำให้มีน้ำลายและเสมหะเหนียวที่คอและช่องปากและติดไปถึงช่องเพดานปาก บางรายรุนแรงจะไปถึงโพรงไซนัสและจมูกได้ และไก่มักจะมีอาการไอ เสียงเปลี่ยนจากการอักเสบ และไปถึงส่วนของลารินจ์ที่อยู่ระหว่างคอหอยก่อนเข้าสู่หลอดลมปอด และยังมีเชื้อที่ีทำให้เกิดอาการดอกหรือฝ้าขาวในลำคออื่น ๆ เช่น แคนดิดา Candida เป็นเชื้อยีสต์ ปรกติเชื้อทั้งสองชนิดนี้เป็นเชื้อประจำถิ่นที่พบในช่องปากอยู่แล้วในปริมาณน้อย ๆ ครับ และไม่ก่อโรค จะเกิดได้เมื่อติดไปจำนวนมากๆ และภาวะที่ภูมิคุ้มกันร่างกายอ่อนแอลง เช่น ไปตีมา หรือซ้อมหนัก แลมักพบในกลุ่มที่เลี้ยงหนาแน่นและกินร่วมกันเพราะเชื้อโรโตซัวมักปนเปื้อนไปกับมูล เสมหะ และติดต่อโดยการกิน เมื่อเกิดแล้วมักเป็นซ้ำๆ เพราะติดต่อกันไปมาไม่มีวันจบสิ้น การป้องกัน การแยกเมื่อเจ็บปวย และการกำจัดแหล่งโรคสำคัญ ส่วนไก่ที่เกิดจากสองสาเหตุนี้นชรักษาให้หายได้ด้วยยา และใช้เวลาไม่นาน ยกเว้นในรายที่มีการอักเสบมาก ๆ จะต้องใช้เวลาในการรักษาการอักเสบ และหลายตัวมักเกิดเป็นพังผืดหรือเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน และเจ้าของผู้เลี้ยงไก่ส่วนใหญ่นิยมลอก จะทำให้เกิดแผลขนาดใหญ่และอักเสบมากขึ้น แนะนำว่าไม่ต้องลอกครับ ให้ใช้ยากินก็เพียงพอ และปล่อยให้ค่อยๆหายเพราะการลอกจะทำให้เกิดแผลเป็น และหายใจหรือมีเสียงดัง เนื่องจากตัวเอนไซม์โปรติเอสที่ใช้ย่อยเซลล์อักเสบและพังผืดของไก่จะมีต่ำกว่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม บางตัวโน้มนำให้เกิดอมพะนำหรือฝีริมฝีปาก

นอกจากนี้หากเป็นเชื้อแคนดิดา ยังพบการติดเชื้อไปที่โพรงจมูกและไซนัสได้ ทำให้อาการไซนัสอักเสบรุนแรงและรักษาให้หายยาก หลายรายจำเป็นต้องเปิดโพรงไซนัสเพื่อทำการล้างถ้ารุนแรงเพราะจะเป็นหนองแบบก้อนเนยแน่น ทำให้อ้าปากหายใจ การรตรวจแยกเชื้อทั้งสองชนิดทำได้ไม่ยาก หมอจะทำการป้ายเชื้อจากช่องปากไปส่องกล้อง และหากใช้ยาถูกต้อง อาการจะเริ่มทะเลาเร็วมาก เชื้อมักจะตายใน 5 วัน แต่ในรายที่เกิดคอดอกและอักเสบจนมีพังผืดอาจจะนานกว่าและรักษาเป็นช่วงๆร่วมกับยาชนิดอื่นให้แผลหาย ส่วนยีสต์จะใช้ยาคนละชนิดและนานกว่า แต่ไม่นานเกินไป ผู้เลี้ยงปกติก็สามารถทดสอบรักษาได้ ว่าจะตอบสนองกับยาตัวไหน

อย่างไรก็ตาม พบว่ามีอาการขี้เขียวและขี้ขาว อาการขี้เขียวคือมูลที่มีสีเขียวมากกว่าปกติ เพราะปกติก็เขียวอยู่แล้ว ส่วนขี้ขาวคือยูเร็ตมักจะปนออกมากับปัสสาวะ ต้องแยกกันให้ออก การพบยูเร็ตหรือขี้ขาวมากกว่า 50% ของสิ่งขับถ่ายจึงจะถือว่าปกติในไก่ แต่ถ้าพบมากกว่า ต้องประเมินจากอาหารก่อนว่าเป็นอาหารโปรตีนสูงหรือไม่ เพราะโปรตีนจะให้ยูเร็ตหรือของเสียที่เป็นกลุ่มไนโตรเจนมาก ก็ลองไปลดโปรตีนและประเมินใหม่ และยังเกิดจากโรคไตที่จะพบการปัสสาวะบ่อยและถ่ายเป็นสีขาวเปรอะไปทั่ว เป็นทั้งโรคไตเองและโรคติดเชื้อ เช่น อหิวาห์ไก่ ซึ่งพบได้ทั้งขี้เขียวจากมูลและขาวจากยูเร็ต ซึ่งเจ้าของประเมินร่วมกับอาการอื่นๆได้ เช่น มักจะซึม อ้าปากหายใจ และระบาดรุนแรง และยังมีพวกโรคหวัด นิวคาสเซิล ที่พบอาการขี้เขียวได้ ซึ่งสีเขียวมาจากความบกพร่องของการทำงานของตับ ปกติก็เขียวอยู่แล้วแต่จะเขียวมากขึ้นหากตับทำงานแย่ลงหรือเสียหายไปแล้ว และมีโรคติดเชื้อเกือบทุกโรคทำให้ตับเสียหาย และไตเสียหายก็ทำให้ถ่ายยูเร็ตมาก หมอเขาจะดูจากค่าเลือดและเอกซเรย์ก็ประเมินเบื้องต้นได้ (เหมาะสำหรับไก่ชนไม่ใช่ไก่ฟาร์ม) นอกจากโรคติดเชื้อแล้ว การกินอาหารลดลงหรือน้ำหนักลดอย่างรวดเร็วก็มีผลทำให้ตับเสียหายได้ เกิดเป็นการถ่ายเขียวได้เช่นกัน

รวมทั้งการซ้อมหนักทำให้กล้ามเนื้ออักเสบรุนแรง จะพบการหลั่งไมโอโกลบินจากกล้ามเนื้อในปริมาณมาก ตัวนี้มีผลทำให้ไตวายได้เช่นกัน และตับทำงานหนักขึ้น จะพบขี้เขียวและขี้ขาวได้เหมือนกัน

ในกรณีตัวนี้ให้เปิดช่องปากส่องไฟดูก่อนครับ หากพบฝ้าขาวและคอดอก ให้สงสัยโรคทั้งสองข้างต้นก่อน (ซึ่งการขาดวิตามินเอก็ทำให้คอเป็นฝ้าและปอดอักเสบได้เช่นกัน) ซึ่งทำให้เกิดขึ้เขียวและขี้ขาวน้อยกว่าโรคติดเชื้ออื่นๆ เว้นแต่จะไม่ค่อยกินข้าวและน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็วครับ

ลองสำรวจดูครับ

หมอไก่ชน ขวัญคำ

หมอไก่ชน ขวัญคำ

ผู้เยี่ยมชม

ตอบกระทู้
CAPTCHA Image
Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้