คือว่าเลี้ยงแฮมเตอร์ไจเเอนท์อยู่ค่ะตอนนี้น้อง6 เดือน เป็นเพศผู้ น้องกินอาหารแฮมของh1อยู่ค่ะ เเต่น้องเหมือนทานไม่ค่อยหมดทั้งที่เราให้ไม่เยอะ ในจานน้องเราจะให้อาหารแฮมh1 วอลนัตบางครั้งและมีขนมเสริมแคลเซียม เเละก่อนทานอาหารเราให้น้องทานวิตามินเพื่อกระตุ้นให้น้องทานได้เยอะ เเต่น้องไม่ค่อยทานค่ะ เราเลยทำอาหารเหมือนอาหารเด็กให้น้องทานเช่น มันฝรั่งสุกบดกับกล้วยเเละเพิ่มวิตามินใส่ให้น้อง น้องทานได้เราเลยอยากถามว่าน้องทานได้ทุกวันเลยมั้ยค่ะ เห็นบางคนบอกว่าน้องไม่ควรทานอาหารคน ขอความช่วยเหลือหน่อยนะคะ

แฮมสเตอร์จัดอยู่ในกลุ่ม rat-like rodents หรือคล้ายหนูแรท สามารถกินอาหารได้หลากหลายเพราะเป็นแบบกินทั้งพืชและสัตว์ โดยปกติจะกินธัญพืชเป็นหลัก แต่ในแฮมสเตอร์จะกินอาหารที่มีระดับโปรตีนเพิ่มขึ้น มีความต้องการวิตามินซีเพิ่มขึ้น เพราะไม่สามารถเปลี่ยนรูปเพราะขาดเอนไซม์บางชนิด คล้ายในหนูส่วนใหญ่ แต่เรามักจะลืมความสำคัญนี้ไป อาหารจึงควรมีแหล่งของวิตามินซี นอกจากนี้การสร้างขนทั้งพันธุ์เล็กและใหญ่ ระดับโปรตีนสำคัญมาก จึงมักพบว่าหนูแฮมสเตอร์ส่วนใหญ่ที่มาตรวจจะขนหยาบมาก โดยเฉพาะพันธุ์ใหญ่ และเกิดได้จากการขาดวิตามินซซึ่งมีผลต่อการสร้างคอลลาเจน

จากข้อมูลข้างต้นการใช้กล้วยและมันบดเป็นอาหารหลักจึงไม่เหมาะสม เพราะจะได้คาร์โบไฮเดรตเป็นส่วนใหญ่เท่านั้น อาหารในกลุ่มธัญพืชหรืออาหารเม็ดที่เหมาะสมจึงสำคัญมากๆ การให้กินวอลนัตก็เสี่ยงต่อการขาดสารอาหาร อาหารเม็ดต้องอ่านฉลากและปริมาณสารอาหารจริงจัง รวมทั้งการปรุงอาหารสดใหม่จะช่วยกระตุ้นความอยากอาหาร มากกว่าการใชวิตามินบีหรือวิตามินรวมกระตุ้นดังที่เข้าใจกันมาเสมอ อาหารปรุงใหม่จึงควรมีความหลากหลาย (หากไม่ได้ใช้อาหารเม็ด) เช่น มีแหล่งโปรตีนจากกลุ่มถั่ว ซึ่งให้ไขมันได้ และอาจใช้เนื้อปลาเนื้อไก่ได้ หรือไข่ มีผักและผลไม้ให้วิตามินและแร่ธาตุเสริมแทนการให้เฉพาะแคลเซียม เพราะแร่ธาตุเสริมส่วนใหญ่มีแคลเซียมอยู่แล้วครับ และการเสริมมากเกินไปจะเสี่ยงทำให้เกิดโรคไตได้ ส่วนอาหารคนไม่ควรทานอยู่แล้วเพราะจะเลือกกิน ถ่ายเหม็น และมักได้คุณค่าทางอาหารไม่เพียงพอเมื่อเทียบอาหารเม็ดที่ทำสำเร็จมาแล้ว ถ้าให้เลือกได้ควรเลี้ยงด้วยอาหารเม็ดเป็นหลัก พวกเมล็ดธัญพืชและผักผลไม้ ให้เป็นอาหารเสริมทีละน้อย อย่าทิ้งไว้ปริมาณมากเพราะจะเลือกกิน

ไม่ควรให้อาหารทีละเยอะๆและทิ้งไว้ครับ เพราะแฮมสเตอร์มีนิสัยตุนอาหาร จะเกิดการเน่าในกระพุ้งแก้ม อุดตัน และปลิ้น และซ่อนอาหารใต้รัง จะเกิดอาหารบูดเน่าและท้องเสียตามมาได้

สุดท้าย ประเมินการเพิ่มขึ้นของน้ำหนักและรูปร่างนะครับ จะได้ข้อมูลการเจริญเติบโตที่ถูกต้อง