ควรทำยังไงดี

เลือดกำเดาในกระรอกจะมีสองสาเหตุที่พบได้บ่อย ประการแรกคือการได้รับบาดเจ็บโดยตรง และอีกประการที่พบบ่อยและรุนแรง และมักจะค่อยๆเกิดจนเราไม่ทันสังเกต คือ เนื้องอกเทียมบริเวณรากฟันกระรอก (pseudo-odontoma) เป็นรากฟันหน้าตัด มักจะเป็นที่รากฟันบนมากกว่ารากฟันล่าง ที่เกิดลักษณะคล้ายเนื้องอก เนื่องจากรากฟันหน้าตัดของกระรอกจะมีความสามารถในการเจริญเติบโตและงอกยาวตลอดชีวิต เนื่องจากว่าต้องใช้ในการกัดแทะธัญพืชเปลือกแข็งตามธรรมชาติ จึงต้องงอกเพื่อทดแทนส่วนที่สึกไปในแต่ละวัน เมื่อเกิดการบาดเจ็บที่ฟันหรือได้รับความกระทบกระเทือน เช่น กัดงัดกรงจนฟันแตก การตัดฟันของเจ้าของเพราะกลัวกัด หรือกัดของแข็งจนได้รับบาดเจ็บ ล้วนเชื่อว่าเป็นสาเหตุโน้มนำให้เกิดการบาดเจ็บและอักเสบ และไปกระตุ้นให้เซลล์สร้างเนื้อเยื่อฟัน (odontogenic) เกิดการเจริญผิดทิศทางไปจากทิศทางเดิม และไร้ระเบียบ กลาวยเป็นเนื้องอกเทียมขึ้นมา มีเลือดไหล และปูดบวม ในที่สุดก็ก้อนใหญ่จนสามารถปิดบังโพรงจมูกหรือทำให้ช่องปากแคบลง ทำให้หายใจลำบากและอ้าปากหายใจ กระรอกจะกินอาหารลดลงและหายใจยาก เมื่ออ้าปากหายใจก็จะกลืนอากาศเข้าทางปากแทน จนกลายเป็นกระเพาะขยายเพราะแก๊สมาก ทำให้ไม่อยากอาหารหรือกินไม่ลงตามมาด้วย

โรคนี้มีผลเสียต่อสุขภาพอย่างมาก ถ้าพบปัญหาแต่แรกๆหรือสงสัยว่าอาจจะเป็นได้ ต้องรีบไปตรวจเพื่อแก้ไขแต่เนิ่นๆ ถ้าปล่อยจนโตแล้ว การแก้ไขทางอายุรกรรมจะยากแล้ว ต้องผ่าตัดครับ เคสนี้เป็นไปได้ที่จะเพิ่งเกิดในสาเหตุประการที่สอง และหากเป็นสาเหตุแรกก็จะง่ายต่อการรักษา อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเลือดกำเดาจะหยุดไหลแล้วก็ควรไปตรวจนะครับ เพราะระยะต่อมาอาจไม่พบเลือดไหลแล้วแต่หน้าจะบวมและหายใจลำบากแทน

ในกรณีอื่นๆทีี่ทำให้เลือดกำเดาไหลก็มี แต่พบได้น้อย เช่น อากาศร้อนจัด กระแทกที่ใบหน้า การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมอย่างรุนแรงหรือก้าวร้าวมีผลต่อความดันในหลอดเลือด เป็นต้น

ขอให้หายไวไวครับ ควรไปตรวจนะครับ