biarlovely123@gmail.com
ชูก้าชักเกร็ง (5032 อ่าน)
21 ต.ค. 2565 15:25
น้องมีอาการชักเกร็งตัวเเข็งไม่เคยเป็นมาก่อนค่ะ จับนอนหงายนวดๆแล้วก็หาย สักพักเป็นอีก และมีขาหลังอ่อนแรง ซึม ไม่กระโดดหรือปีนป่าย ต้องเฝ้าดูตลอด กลัวเวลาที่ไม่ได้ดูน้องจะเกร็งแล้วช่วยไม่ทันค่ะ
biarlovely123@gmail.com
สมาชิก
Doctor Randolph
30 พ.ย. 2565 11:19 #1
เป็นได้จากหลายระบบ ส่วนใหญ่จะทำให้คิดว่าเป็นโรคระบบประสาทโดยตรง ที่ทำให้เกิดอาการชัก เช่น ที่สมองซึ่งต้องประเมินว่าสัตว์รู้สึกตัวหรือไม่รู้สึกตัวขณะชัก และการชักต่อเนื่องที่เกิดอย่างต่อเนื่องคล้ายโรคลมชักในคน หลังจากชักสัตว์จะอ่อนเพลีย ไม่มีกำลัง นอกจากเกิดจากระบบประสาทโดยตรง ในบางรายการขาดน้ำตาลหรือน้ำตาลต่ำก็มีผล ส่วนใหญ่จะเป็นลม รายที่ขาดแคลเซียมหรือแคลเซียมต่ำก็จะเกิดอาการชักได้ เป็นการชักเกร็ง และหากไม่ได้รับการเสริมก็จะเกิดอาการแบบซ้ำๆและถึงกับเสียชีวิตได้เช่นกันครับ
Doctor Randolph
ผู้เยี่ยมชม
พรทิพย์
6 ก.ค. 2566 01:42 #2
ทำมะยชูก้าดูอาการเหมือนชักเลยคะเวลาเดินทีจะล้มละหัวของชูก้าก้จะอยู่ไม่นิ่งทรงตัวไม่อยู่เกิดจากอะไรคะ
พรทิพย์
ผู้เยี่ยมชม
หมอขวัญคำ
6 ก.ค. 2566 19:08 #3
อาการดังกล่าวเกิดได้ทั้งอาการที่เกิดจากความเสียหายที่ระบบประสาทโดยตรง และเกิดจากปัจจัยอื่นๆที่มีการสร้างของเสียหรือสารพิษไปมีผลกระทบต่อการทำงานของระบบประสาทได้อีกทีครับ อาการดังกล่าวหากชูการ์ยังคงมีสติและรู้สึกตัวอยู่ จะเกิดผลกับระบบประสาทได้หลายส่วน เช่น สมองส่วนซีรีเบลลัม ไปจนถึงระบบประสาทเวสตรบูล่าที่ช่องหูส่วนในและระบบประสาทที่เกี่ยวข้อง จะทำให้เดินไม่สัมพันธ์ หัวเอียงหรือส่ายไปมา ตากระตุกได้ แต่หากไม่มีสติและไม่รู้สึกตัวร่วมกับอาการชัก จะเป็นสมองส่วนอื่นที่เกี่ยวกับการรับรู้ด้วย เช่น ซีลีบรัม เจ้าของต้องลองสังเกตนะครับ และยังเกิดจากความเสื่อมตามวัย
สาเหตุที่เกิดจากปัญหาร่างกายสร้างของเสีย เช่น ยูเรียสะสมที่เกิดจากโรคไต และแอมโมเนียที่เกิดจากโรคตับ สารพิษเหล่านี้ถ้ามีมากจะทำให้เกิดอาการทางประสาทได้ และยังพบในโรคเมตาบอลิกอื่นๆ รวมไปถึงการได้รับสารพิษจากภายนอกอื่น ๆ
นอกจากนี้อาการที่ใกล้เคียงกันแต่ทำให้เข้าใจผิดได้ว่าชัก และเดินล้ม เป็นอาการอ่อนเพลียคล้ายจะเป็นลม เกิดได้จากอาการขาดน้ำตาลในเลือด ขาดแคลเซียมจากอาหารหรือโรคเมตาบอลิกกระดูก ภาวะขาดทางโภชนาการโรคของช่องหูและการมองเห็น เบาหวาน เป็นต้น
อาการทางระบบประสาท จึงควรทำการตรวจและซักประวัติเพื่อหาสาเหตุ หรือเจ้าของลองทำการสังเกตและแก้ไขในสิ่งที่ทำได้ เช่นประเมินการจัดการเลี้ยงของตนเองว่าเหมาะสม และโภชนาการเหมาะสมแล้ว จะได้ตัดสาเหตุเหล่านี้ออกไปก่อน เพื่อจะได้ประเมินปัญหาทางระบบประสาทโดยตรงซึ่งบางสาเหตุจะแก้ไขไม่ได้เลย หากเกิดความเสียหายและเสื่อมไปแล้ว ทั้งระบบประสาทหรืออวัยวะอื่นๆทำให้เกิดการสะสมของสารพิษในร่างกายได้ครับ
หมอขวัญคำ
ผู้เยี่ยมชม
ชุติกาญจน์
1 ม.ค. 2567 17:30 #4
ชูก้าหนูมีอาการคอเอียงเกร็งเดินผิดปกติแล้วอยู่ๆก็ขู่แล้วก็ชักเกร็งอยากทราบว่าน้องเป็นอะไรคะถึงตายมั้ย
ชุติกาญจน์
ผู้เยี่ยมชม
หมอขวัญคำ
2 ม.ค. 2567 20:48 #5
อาการเข้าข่ายเดียวกันกับคำตอบข้างบนเลยครับ อาการคอเอียงมักสัมพันธ์กับโรคที่เกี่ยวกับประสาทช่องหูส่วนกลางและส่วนใน และยังเกี่ยวกับประสาทส่วนกลางที่เกี่ยวกับการทรงตัว ซึ่งจะเป็นสมองส่วนซีรีเบลลัมครับ ส่วนอาการชักเกร็งได้อธิบายข้างบนแล้ว เกิดจากสมองมีความบกพร่อง มีแนวโน้มเกิดได้ทั้งจากอาหาร พิษ ยา ยูเรียจากโรคไต แอมโมเนียจากโรคตับ ซึ่งจะพบได้เมื่อเข้าสู่วัยชราในชูการ์ไกลเดอร์ เกิดจากไฟฟ้าในสมองหรือการสื่อประสาทผิดปกติ และเกิดขึ้นในชั่วขณะ และเกิดผลต่อระบบประสาท อารมณ์ และพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปในขณะที่เกิดอาการ เช่น ดุร้าย หรือซึมเศร้าได้ ต่างไปจากพฤติกรรมเดิมได้ บางรายอาจวูบหมดสติ อาการชักมักไม่ได้ทำให้ตาย แต่ทำให้เกิดอันตรายจากการตกกระแทก
การรักษาต้องทราบสาเหตุก่อน หากเกิดจากโรคอื่นๆ ก็ให้รักษาสาเหตุนั้น เช่น ไต หรือตับ หรือการกินยาบางชนิด หากเป็นที่สมองก็ควรได้รับการตรวจพื้นฐานของระบบประสาทเพิ่มเติมแต่อาจไม่พบอะไรเมื่อเทียบกับการแพทย์ที่ล้ำหน้ากว่ามาก แต่อาจพิจารณาใช้ยาแก้ไขร่วมด้วยเป็นการทดสอบได้ หากเกิดจากสิ่งเร้าสิ่งกระตุ้น ให้พยายามหลีกเลี่ยง เช่น เสียงดัง หรือถูกคุกคาม เป็นต้น ขอใหเอาการหายไวไวและสู่ภาวะปกติครับ
หมอขวัญคำ
ผู้เยี่ยมชม
Chaiyawat
17 ก.พ. 2567 17:49 #6
ชูการ์ช็อคเกร็ง ตัวแข็ง มือเท้ากุมเข้าหากัน มีฉี่ราด ด้วยสาเหตุเกิดจากอะไรได้บ้างครับ
Chaiyawat
ผู้เยี่ยมชม
อ.แก้ว ขวัญคำ
17 ก.พ. 2567 20:06 #7
อาการจะเข้าข่ายคำถามเดียวกันกับข้างต้นนะครับ ชูการ์ไกลเดอร์เป็นกันมาก จากอาการตัวนี้เข้าข่ายเป็นอาการทางประสาทได้ เพราะมีอาการช็อค เกร็ง มือเท้าบิด เหมือนเป็นโรคของสมองส่วนกลาง และไม่สามารถควบคุมการขับถ่ายได้ เป็นทั้งจากอาการทางประสาทที่เกิดจากความเสื่อมของระบบประสาทเอง เช่น อายุมาก ร่างกายเสื่อม หรือการได้รับสารพิษในกรณีที่เป็นเฉียบพลัน น้ำตาลในเลือดต่ำในรายที่อดอาหาร หรือมีอาการผอมรวดเร็ว จะผลิตสารในร่างกายที่เป็นพิษต่อระบบประสาท แม้กระทั่งโรคไตที่ช่วยขับสารพิษจากร่างกายไม่ได้ โรคตับที่ทำให้เกิดการสะสมแอมโมเนียและเป็นพิษมากขึ้น ในกรณีนี้ไม่ควรนิ่งเฉย อย่างไรก็ตามบางรายจะไม่แสดงอาการชัก ช็อค สั่น หรือเกร็ง แม้ว่าจะป่วยโดยโรคเดียวกัน เช่น ตับ หรือไต อาจเป็นอาการอ่อนเพลีย และซึม เบื่ออาหาร แทน
นอกจากนี้อาการเหล่านี้ยังพบในรายที่ออกซิเจนต่ำมากๆ แต่มักจะเป็นลมหมดสติมากกว่า เคสนี้ควรไปพบหมอนะครับ เพราะต้องแยกแยะก่อน เอกซเรย์บางทีก็พอแจ้งได้ว่าเป็นอะไร เพราะการตรวจเลือกเหมือนสัตว์เลี้ยงอื่นๆ เลือดไม่เพียงพอ จึงมักประเมินร่วมกับการรักษา หลายรายพบว่าเป็นโรคไตและตอบสนองได้ดีแบบรักษาประคับประคองครับ
อ.แก้ว ขวัญคำ
ผู้เยี่ยมชม
Rujiko
18 เม.ย 2567 23:12 #8
ชูการ์เพศเมียอายุประมาณ 7-8 ปี ช่วงนี้เขาจะ ร้องซี๊ดๆๆและเกร็งตัว กำมือเท้า ซักพักก็จะหาย แล้วจะซึมๆนิ่งๆ เป็นเกือบทุกวันเลยค่ะ ประมาณ 1 อาทิตย์แล้ว ไปหาหมอ หมอให้กาบาเพนตินมากินก็ยังเกร็งอยู่ แต่ไม่หนักเท่าก่อนกินยาค่ะ หากเขาเกร็ง เราสามารถช่วยเขายังไงได้บ้างคะ แต่เขาก็ยังกินได้นะคะ เพียงแต่น้อยลงจากปรกติ เล่นน้อยลง ปรกติจะวิ่งวงล้อตอนกลางคืนค่ะ ไม่ทราบว่าเขาป่่่วยป็นอะไรคะ
Rujiko
ผู้เยี่ยมชม
อ.แก้ว ขวัญคำ
21 เม.ย 2567 21:04 #9
ตามที่ผมได้ตอบในหลายกระทู้ข้างบน อาการเหล่านี้จะใกล้เคียงกันครับ นอกเหนือจากสาเหตุข้างต้น บางรายก็เกิดจากความเสื่อมของร่างกายตามอายุ จะมีการเจ็บปวดไปหมด ทั้งกล้ามเนื้อ กระดูก ความเสื่อมของอวัยวะต่างๆ ทำให้การทำงายแย่ลง จึงกำจัดสารพิษในร่างกายได้ลดลง ก็เกิดปัญหาอาการเหล่านี้จากการสะสมของสารพิษที่เกิดจากร่างกายเองแต่กำจัดออกตามปกติไม่ค่อยได้ และโดยตรงเลยคือการได้รับสารพิษต่างๆที่มาในหลายรูปแบบ ทั้งอาหาร ขนม ยา ของแทะเล่น แม้กระทั่งเกิดขึ้นง่ายที่สุดคืออาการเจ็บปวด เพียงแค่ท้องผูกท้องเสียก็เกิดอาการปวดเกร็ง และมักเป็นพักๆแบบนี้ได้เช่นกันครับ เพราะอาการที่เกิดขึ้นจากอาการทางประสาทหรือโรคความเสื่อม มักไม่เกิดเป็นพัก มักจะเริ่มแล้วเกิดต่อเนื่องและเสื่อมลงให้เห็นต่อเนื่องครับ จึงเป็นไปได้ที่จะเกิดจากอาการเจ็บปวดที่ใดที่หนึ่งก็ได้
การใช้ยากลุ่มนี้จะไปยับยั้งสารสื่อประสาท ในรายที่มีปัญหาชักจริงจะเริ่มทุเลา แต่เมื่อหยุดยาก็จะมาให้เห็นอีก อาการที่ไม่ต่อเนื่องจนไปถึงต่อเนื่องได้ เป็นอาการคล้ายโรคลมชักในคน ซึ่งมีหลายรูปแบบ ในสัตว์ก็แสดงอาการคล้ายกัน แต่มักสัมพันธ์กับอาการหมดสติได้ หยุดหายใจ เป็นต้น เว้นแต่เป็นชักเฉพาะที่ก็มีครับ แต่ก็ยังต้องประเมินกับภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ สารพิษ ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น
การใช้ยาจึงตอบได้ยากว่าไปแก้สาเหตุได้ไหม แต่เป็นการทดสอบได้ครับ เพราะหากเป็นระบบใดใดที่พบอยู่ สัตว์ก็รู้สึกสบายตัวแน่นอน เพราะอาการทุเลา และอาการกำมือเท้าหงิกงอมีโอกาสสูงจะเกี่ยวกับระบบประสาท โดยเฉพาะสมองตามอายุ อย่างไรก็ตาม ก็อาจจะแยกได้ยากจากอาการปวดแล้วเกร็ง เช่น ท้องกาง การขับถ่ายผิดปกติ การเจ็บปวดกล้ามเนื้อหรือกระดูก การทดสอบโดยการหยุดยาหรือปรับการใช้ยาประเภทอื่นอาจมีความจำเป็นในการทดสอบ เนื่องจากการตรวจสอบอาการทางประสาทมีความละเอียดและใช้ระยะเวลาในการดูอาการต่อเนื่องครับ แม้ว่าจะบอกแทบจะได้จากกลุ่มอาการดังกล่าวว่าอาจจะชักจากปัญหาที่ประสาทครับ
เมื่อมีการใช้ยากาบาเพนติน จะไปยับยั้งการสื่อประสาทโดยยาไปจับกับตัวรับของสารสื่อประสาท กิจกรรมต่างๆย่อมลดลงครับ เกิดอาการซึมลงได้ เป็นสิ่งปกติจากยาครับ
อ.แก้ว ขวัญคำ
ผู้เยี่ยมชม
Rujiko
21 เม.ย 2567 21:37 #10
ขอบคุณ อ.แก้ว ขวัญคำ นะคะ ข้อมูลเป็นประโยชน์มากๆค่ะ
Rujiko
ผู้เยี่ยมชม
Ray
22 ม.ค. 2568 13:49 #11
ชูการ์มีอาการเหมือนทุกอย่างที่ กล่าวมาข้างต้น แต่ตอนนี้ เริ่มมีอาการท้องผูก ไม่ถ่าย ท้องแข็ง ท้องป่องใหญ่ เกิดจากอะไร และทำอย่างไรถึงจะช่วยให้น้องถ่ายปกติ ค่ะ และสาเหตุเกิดจากอะไรถึงเป็นแบบนี้ เพราะปกติแล้ว น้องกินแล้วก็ ถ่าย ฉี่ ปกติ ค่ะ
Ray
ผู้เยี่ยมชม
อ.แก้ว ขวัญคำ
24 ม.ค. 2568 09:02 #12
ตอบคุณ Ray ครับ
ประเมินจากอาการที่สอดคล้องกันทั้งหมดที่เลามา หมอส่วนใหญ่จะเรียงลำดับความสำคัญของปัญหาไปที่ระบบทางเดินอาหาร ในอดีตอาจจะประเมินอาการท้องผูกเป็นตัวหลักและสามารถแนะนำการสวนทวารช่วยได้ หรือการดื่มน้ำหรือทานผักผลไม้มากขึ้นเพื่อกระตุ้นการขับถ่าย ซึ่งสามารถำได้โดยการช่วยสวนทวารเหมือนเด็กๆท้องผูก เมื่อท้องผูกจะมีอาการปวดเกร็งได้ในบางรายและปวดเวลาเบ่ง จะเกิดจากมูลแข็งขาดน้ำเพราะเยื่อใยอาหารน้อย หรือมูลมากและเกิดการอุดกั้นที่ลำไส้ใหญ่ส่วนท้าย เมื่อช่วยทำการสวนทวารก็มักจะกลับมาเป็นปกติ เคสแบบนี้จึงมักท้องป่อง กดแล้วเจ็บครับ
ในปัจจุบันอาจจะไม่ได้ทำแค่ตัว treat trial และแก้ไขปัญหาตามอาการดังกล่าวอย่างเดียว จะต้องประเมินเรื่องอาหารแต่ละมื้อ ประวัติความเจ็บป่วยการรักษา การตรวจร่างกายและมักต้องทำการเอกซเรย์เพื่อสำรวจว่าเป็นแค่ทางเดินอาหารจริงๆ หรือมีอย่างอื่นแทรกซ้อนหรือไม่ เพราะการตรวจเลือดในสัตว์ขนาดเล็กทำไม่ยากและไม่เพียงพอในการตรวจ
ในเคสนี้หากเกิดท้องผูกบ่อยๆจะเกิดจากอาหารได้ เกิดในบางครั้งบางคราวก็มักจะเกี่ยวกับการดื่มน้ำน้อยหรือน้ำไม่เพียงพอไม่สะอาด หรือาหารนั้นๆที่ให้มีน้ำปนอยู่น้อย ขาดความชุ่มชื้น จะพบได้มากในกลุ่มที่กินหนอนนก ที่ยังมีเปลือกของแมลงน้อยหรือไคตินที่เป็นตัวกระตุ้นการขับถ่าย อย่างไรก็ตามชูการ์ไกลเดอร์กินพืชและสัตว์ การเสริมด้วยน้ำหวานหรืออาหารชงมีน้ำเพื่อให้ได้น้ำ ผักและผลไม้เป็นสัดส่วนที่มากจะช่วยการขับถ่ายได้ดี และเป็นบางครั้งคราวมักเกิดจากความเครียดได้ การเปลี่ยนแปลงที่อยู่อาศัย เพื่อนร่วมกรง สัตว์ชนิดอื่น เสียง กลิ่น หรืออาการบาดเจ็บต่างๆ และยังพบในรายที่ป่วยเป็นอาการซ่อนอยู่ ผมจึงได้แนะนำให้ทำการตรวจเพิ่มหากหลังจากปรับการกินอาหารให้น้ำและ/หรือการสวนทวารแล้วอาการไม่ดีขึ้นครับ
อ.แก้ว ขวัญคำ
ผู้เยี่ยมชม