Kanokwan.s

Kanokwan.s

ผู้เยี่ยมชม

  กระต่ายคางเปียก ค่าเม็ดเลือดแดงต่ำ (580 อ่าน)

21 ก.พ. 2565 21:29

ขออนุญาติปรึกษาหน่อยค่ะ พอดีเมื่อวันศุกร์ที่ 18/02/22 เด็กที่บ้านมีอาการคางเปียก ซึม กินน้อยลง อึไม่กลมสม่ำเสมอ น้องพึ่งคลอดลูกมาได้ 2 อาทิตย์นะคะ หลังคลอดลูกอาการปกติดีทุกอย่างน้องยังอ้วนร่าเริง กินเล่นปกติเลย

วันอาทิตย์ที่ 20/02/22 เลยพาไปหาหมอที่ รพ.

น้องอายุ 9 เดือน หนัก 1.35

เบื้องต้นหมอ X-Rays พบว่าที่ฟันล่างเริ่มมีอาการฟันยาวลงไปในเหงือกแต่ยังไม่มีอาการอักเสบหรือเกิดฝีหนอง ส่วนฟันบนปกติ เริ่มพบการเรียงฟันที่ไม่สลับกัน ส่วนในช่องท้องปกติไม่มีแก๊ส

หมอเลยจับวางยาสลบเพื่อดูภายในช่องปากน้องว่ามีการทิ่มแทงของฟัน หรือตรงส่วนไหนอักเสบไหม พบว่าปกติทุกอย่างค่ะ

จากนั้นเลยรอดูผลค่าเลือดพบว่าค่าเม็ดเลือดขาวน้องต่ำตรวจได้ประมาณ 3000 ส่วนเม็ดเลือดแดงต่ำเช่นกันตรวจได้ 21 ซึ่งน้องพึ่งคลอดลูกมาได้ประมาณ 2 อาทิตย์ หมอแจ้งว่าสำหรับคุณแม่พึ่งคลอดควรจะมีค่าเม็ดเลือดแดงอย่างน้อย 28 ค่ะ

ซึ่งอาทิตย์หน้าหมอจะนัดดูอาการอีกรอบว่าค่าเม็ดเลือดจะเพิ่มขึ้นไหม และได้ให้ยาแก้อักเสบมาเนื่องจากเม็ดเลือดขาวต่ำคาดว่าอาจมีการติดเชื้อ แล้วก็ค่าโปรตีนต่ำด้วยค่ะ

อาหารที่ให้น้องหญ้าทิมโมธีอีดเม็ด, ทิมโมธี (ให้น้อยเน้นแบบเม็ด), อัลฟาฟ่า, อาหารเม็ด BH, ช่วงคลอดน้องมีให้ข้าวโพดดิบกับขึ้นฉ่ายด้วยค่ะ

ซึ่งทั้งนี้ทางคุณหมอยังไม่ทราบว่าที่คางเปียก และค่าเม็ดเลือดแดง และเม็ดเลือดขาวต่ำเกิดจากอะไร

รบกวนขอคำแนะนำหน่อยค่ะว่าน้องมีโอกาสจะเป็นตับบิดไหมคะ ตอนนี้คุณหมอให้ยาฆ่าเชื้อ แก้ปวด บำรุงเลือดแต่น้องยังซึมอยู่เลยค่ะ กินหญ้าน้อยมากเลยป้อน rabbit care เสริมให้

Kanokwan.s

Kanokwan.s

ผู้เยี่ยมชม

Dr.Randolph

Dr.Randolph

ผู้เยี่ยมชม

26 ก.ค. 2565 22:27 #1

ประเด็นนี้มีรายละเอียดที่ต้องทำความเข้าใจกันใหม่อีกมากเลยครับ ผู้เลี้ยงเข้าใจเกือบจะสมบูรณ์แล้วแต่มีความเข้าใจคลาดเคลื่อนไปบ้าง จึงเสี่ยงต่อการทำให้กระต่ายป่วยทั้งที่กินเกือบจะดีเกือบทุกอย่างแล้ว ที่จริงควรไปพบหมอที่เข้าใจด้านโภชนาการอีกสักคนให้กระจ่างยิ่งขึ้นร่วมกับหมดที่รักษาทางอายุรกรรมที่เคยรักษา เพราะจะเป็นประโยชน์มากขึ้น

อาการคางเปียกไม่ใช่อาการปรกติ มักจะเกิดจากน้ำลายไหลเรียกว่า slobber ซึ่งมักพบร่วมกับปัญหาเรื่องฟัน และจากฟิล์มเอกซเรย์เป็นปัญหาฟันที่เกรด 4 เป็นอย่างน้อยหรือเรียกว่า step mouth และอาการเกรด 4 เป็นเกรดที่โครงสร้างฟันจะเปลี่ยนทั้งฟันบนและฟันล่าง และเสี่ยงที่ฟันจะไปบาดที่ลิ้นหรือกระพุ้งแก้ม และจากลักษณะของมูลแข็งที่ไม่สม่ำเสมออาจเกิดจากการกินลดลงได้ แต่ควรประเมินปริมาณหญ้าที่กินได้เป้นหลัก หากก่อนหน้านี้มีลักษณะการขับถ่ายแบบนี้อยู่แล้วจะบ่งชี้ว่าเกิดจากการให้หญ้าไม่เพียงพอหรืออาหารเม็ดมากเกินไป เพราะการขับถ่ายที่จะเหมาะสมมีขนาด 0.5-1.0 เซนติเมตรและสม่ำเสมอจะมาจากลิกนินและเซลลูโลสซึ่งเป็นกากอาหารชนิดย่อยไม่ได้ครับ

และจากประวัติการขับถ่ายนี้จะบ่งชี้ว่าหนีไม่พ้นผลทางสรีรพยาธิวิทยาหรือหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่จะพบแก๊สสะสมในทางเดินอาหาร ผมถึงได้แปลกใจและอธิบายตรงไปตรงมาเพื่อไม่ให้เข้าใจผิด ว่ากรณีแบบนี้ไม่พบเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจ รวมถึงผลความผิดปรกติของฟันที่ไประดับเกรด 4 จะบ่งชี้เรื่องกระต่ายกินหญ้าได้ไม่มากพบได้ เพราะฟันจะยาวมากกว่าการสึกตามธรรมชาติ จำเป็นต้องตรวจช่องปากใหม่เพื่อหาบาดแผล และการกินแบบเม็ดที่ไม่ได้ทำแบบก้านจะเสี่ยงทำให้ฟันยาวเพราะเม็ดจะไม่ช่วยเรื่องการขัดสีไปทางข้างสลับไปมา แต่จะช่วยแค่เรื่องการขบ แต่มีผลช่วยในเรื่องกากอาหารที่เพียงพอ ดังนั้นในกรณีนี้จึงอาจไม่มีแก๊สในทางเดินอาหารตามปรกติ

อย่างไรก็ตามผู้เลี้ยงให้กินธัญพืชเป็นข้าวโพด ซึ่งให้แป้งมากเสริม แม้ว่าจะช่วงใดก็ตามก็ไม่เหมาะในเชิงสุขภาพเว้นแต่จะให้ในระดับที่เข้าใจถูกต้อง ในอาหารเม็ดที่ดีให้พลังงานแบบ cool energy ซึ่งเพียงพออยู่แล้ว ปัญหาของแป้งที่มากเกินไปจากการเสริม จะไปส่งเสริมให้แบคทีเรียกลุ่มหนึ่งเจริญมากขึ้น เรียกกลุ่มนี้ว่า แบคทีเรียแลคติค พวกมันจะย่อยแป้งให้เป็นกรดแลคติค ซึ่่งตัวมันเองและเพื่อนๆจุลินทรีย์ที่อยู่ในทางเดินอาหารจะนำกรดชนิดนี้ไปใช้ต่อเพื่อผลิตเป็นกรดไขมันอิสระ แต่ถ้ามีมากเกินไป จะทำให้เกิดการผลิตกรดแลคติกมากเกินไปและเป็นปัญหาในสัตว์กินพืชทุกชนิดที่มนุษย์ต้องการนมมากๆ หรือต้องการเนื้อ เช่น วัวนม วัวขุน หรือม้าแข่ง สุดท้ายวัวและม้าเหล่านี้จะเกิดภาวะลำไส้อืด ทั้ง bloat และ colic หลายตัวก็จบชีวิตลงด้วยภาวะกรดมากนี้ เมื่อมีกรดมากกลับทำให้จุลินทรีย์ตายไปและเสียสมดุลจุลินทรีย์ในทางเดินอาหาร เกิดลำไส้อักเสบ และกรดไขมันบางชนิดจะถูกผลิตมากเกินไปและไปหยุดการบีบตัวของลำไส้ใหญ่ ซึ่งเป็นเหตุหนึ่งของลำไส้อืดหรือลำไส้บีบตัวช้าลง (จะพิมพ์ต่อ)



เนื่องจากการมีฝีที่รากฟันและเสี่ยงต่อการติดเชื้อเรื้อรังและเป็นผลทำให้ค่าเลือดผิดปรกติ และยังเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคระบบทางเดินอาหายใจและติดเชื้อไปส่วนอื่นได้ เคสนี้จะบอกว่าฟันไม่ผิดปรกติคงไม่ได้แม้จะเปิดช่องปากเข้าไปแล้ว

Dr.Randolph

Dr.Randolph

ผู้เยี่ยมชม

Dr.Randolph

Dr.Randolph

ผู้เยี่ยมชม

26 ก.ค. 2565 22:27 #2

ประเด็นนี้มีรายละเอียดที่ต้องทำความเข้าใจกันใหม่อีกมากเลยครับ ผู้เลี้ยงเข้าใจเกือบจะสมบูรณ์แล้วแต่มีความเข้าใจคลาดเคลื่อนไปบ้าง จึงเสี่ยงต่อการทำให้กระต่ายป่วยทั้งที่กินเกือบจะดีเกือบทุกอย่างแล้ว ที่จริงควรไปพบหมอที่เข้าใจด้านโภชนาการอีกสักคนให้กระจ่างยิ่งขึ้นร่วมกับหมดที่รักษาทางอายุรกรรมที่เคยรักษา เพราะจะเป็นประโยชน์มากขึ้น

อาการคางเปียกไม่ใช่อาการปรกติ มักจะเกิดจากน้ำลายไหลเรียกว่า slobber ซึ่งมักพบร่วมกับปัญหาเรื่องฟัน และจากฟิล์มเอกซเรย์เป็นปัญหาฟันที่เกรด 4 เป็นอย่างน้อยหรือเรียกว่า step mouth และอาการเกรด 4 เป็นเกรดที่โครงสร้างฟันจะเปลี่ยนทั้งฟันบนและฟันล่าง และเสี่ยงที่ฟันจะไปบาดที่ลิ้นหรือกระพุ้งแก้ม และจากลักษณะของมูลแข็งที่ไม่สม่ำเสมออาจเกิดจากการกินลดลงได้ แต่ควรประเมินปริมาณหญ้าที่กินได้เป้นหลัก หากก่อนหน้านี้มีลักษณะการขับถ่ายแบบนี้อยู่แล้วจะบ่งชี้ว่าเกิดจากการให้หญ้าไม่เพียงพอหรืออาหารเม็ดมากเกินไป เพราะการขับถ่ายที่จะเหมาะสมมีขนาด 0.5-1.0 เซนติเมตรและสม่ำเสมอจะมาจากลิกนินและเซลลูโลสซึ่งเป็นกากอาหารชนิดย่อยไม่ได้ครับ

และจากประวัติการขับถ่ายนี้จะบ่งชี้ว่าหนีไม่พ้นผลทางสรีรพยาธิวิทยาหรือหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่จะพบแก๊สสะสมในทางเดินอาหาร ผมถึงได้แปลกใจและอธิบายตรงไปตรงมาเพื่อไม่ให้เข้าใจผิด ว่ากรณีแบบนี้ไม่พบเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจ รวมถึงผลความผิดปรกติของฟันที่ไประดับเกรด 4 จะบ่งชี้เรื่องกระต่ายกินหญ้าได้ไม่มากพบได้ เพราะฟันจะยาวมากกว่าการสึกตามธรรมชาติ จำเป็นต้องตรวจช่องปากใหม่เพื่อหาบาดแผล และการกินแบบเม็ดที่ไม่ได้ทำแบบก้านจะเสี่ยงทำให้ฟันยาวเพราะเม็ดจะไม่ช่วยเรื่องการขัดสีไปทางข้างสลับไปมา แต่จะช่วยแค่เรื่องการขบ แต่มีผลช่วยในเรื่องกากอาหารที่เพียงพอ ดังนั้นในกรณีนี้จึงอาจไม่มีแก๊สในทางเดินอาหารตามปรกติ

อย่างไรก็ตามผู้เลี้ยงให้กินธัญพืชเป็นข้าวโพด ซึ่งให้แป้งมากเสริม แม้ว่าจะช่วงใดก็ตามก็ไม่เหมาะในเชิงสุขภาพเว้นแต่จะให้ในระดับที่เข้าใจถูกต้อง ในอาหารเม็ดที่ดีให้พลังงานแบบ cool energy ซึ่งเพียงพออยู่แล้ว ปัญหาของแป้งที่มากเกินไปจากการเสริม จะไปส่งเสริมให้แบคทีเรียกลุ่มหนึ่งเจริญมากขึ้น เรียกกลุ่มนี้ว่า แบคทีเรียแลคติค พวกมันจะย่อยแป้งให้เป็นกรดแลคติค ซึ่่งตัวมันเองและเพื่อนๆจุลินทรีย์ที่อยู่ในทางเดินอาหารจะนำกรดชนิดนี้ไปใช้ต่อเพื่อผลิตเป็นกรดไขมันอิสระ แต่ถ้ามีมากเกินไป จะทำให้เกิดการผลิตกรดแลคติกมากเกินไปและเป็นปัญหาในสัตว์กินพืชทุกชนิดที่มนุษย์ต้องการนมมากๆ หรือต้องการเนื้อ เช่น วัวนม วัวขุน หรือม้าแข่ง สุดท้ายวัวและม้าเหล่านี้จะเกิดภาวะลำไส้อืด ทั้ง bloat และ colic หลายตัวก็จบชีวิตลงด้วยภาวะกรดมากนี้ เมื่อมีกรดมากกลับทำให้จุลินทรีย์ตายไปและเสียสมดุลจุลินทรีย์ในทางเดินอาหาร เกิดลำไส้อักเสบ และกรดไขมันบางชนิดจะถูกผลิตมากเกินไปและไปหยุดการบีบตัวของลำไส้ใหญ่ ซึ่งเป็นเหตุหนึ่งของลำไส้อืดหรือลำไส้บีบตัวช้าลง (จะพิมพ์ต่อ)



เนื่องจากการมีฝีที่รากฟันและเสี่ยงต่อการติดเชื้อเรื้อรังและเป็นผลทำให้ค่าเลือดผิดปรกติ และยังเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคระบบทางเดินอาหายใจและติดเชื้อไปส่วนอื่นได้ เคสนี้จะบอกว่าฟันไม่ผิดปรกติคงไม่ได้แม้จะเปิดช่องปากเข้าไปแล้ว

Dr.Randolph

Dr.Randolph

ผู้เยี่ยมชม

Dr.Randolph

Dr.Randolph

ผู้เยี่ยมชม

26 ก.ค. 2565 22:41 #3

อาการที่ปรากฎอย่างหนึ่งมักจะเป็นผลมาจากสิ่งหนึ่งหรืออาการอื่นเสมอครับ ผมวิเคราะห์ตามประวัติที่แจ้ง ซึ่งเจ้าของต้องประเมินจากปิรามิดอาหารที่เหมาะสมอีกทีนะครับ เพราะมีความตั้งใจจริงที่จะเลี้ยงกระต่ายแบบพรีเมี่ยมแต่อาจจะเข้าใจผิดหรือได้รับข้อมูลที่บิดเบือนจากสื่อต่างๆได้ อาการเบื่ออาหารมักมีต้นเหตุ แต่มักไม่ได้มาจากตอนให้นม เช่นป่วยติดเชื้อ ภาวะลำไส้อืดที่ทำให้เบื่ออาหารและซึมได้ชัดเจน แต่จากภาพเอกซเรย์ที่แจ้งกลับไม่พบแก๊สสะสมทั้งที่ถ่ายมูลไม่สม่ำเสมอ

การเกิดน้ำลายไหลมากจึงต้องตรวจเพิ่มเติม เพราะไม่สัมพันธ์กับภาพเอกซเรย์ที่แจ้ง และให้ประเมินเกรดของฟันเพิ่มเติมเพราะหากมีการติดเชื้อจะมีกลิ่นเหม็นตั้งแต่เกรดที่ 5 และเป็นฝีในเกรดที่ 6 ซึ่งจะเป็นเหตุให้เม็ดเลือดขาวต่ำในรายเรื้อรัง

การเกิดค่าเม็ดเลือดต่ำ นอกจากภาวะได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ มักจะพบในภาวะติดเชื้อเรื้อรังดังยกตัวอย่างข้างต้น ยังพบในโรคเมตาบอลิคที่เกี่ยวกับการผลิตเม็ดเลือดหลายโรค เช่น ไต ซึ่งมักจะมีอาการอื่นร่วมและสามารถตรวจจากการตรวจเลือดได้เช่นกัน

ตับบิดเจอได้ครับ แม้จะไม่มากแต่พบได้อยู่เรื่อยๆ เกือบทุกๆคลินิก หมอจะแยกจากกันได้โดยการอัลตราซาวด์ หรือดูจากอาการที่ไม่ค่อยตอบสนองต่อการให้ยาลดปวด มักจะมาด้วยอาการใกล้เคียงกับภาวะลำไส้อืด

ในตัวที่กินอาหารที่เสี่ยงแนะนำให้ใช้ Bunny Enzyme เข้าช่วยครับ ตัวนี้จะไปช่วยลดกรดแลคติคที่ผลิตมากเกินไปอย่างรวดเร็ว จะช่วยให้กระต่ายสบายท้องและให้ระบบการย่อยแป้งดีขึ้น และไปช่วยรักษาสมดุลจุลินทรีย์จากการใช้แป้งหรืออาหารเม็ดที่ไม่เหมาะสมได้ ส่วน Rabbit Care อาจจะไม่จำเป็นถ้ากินหญ้าได้เยอะ แต่มีไว้เมื่อกินได้น้อยและต้องป้อน โดยเฉพาะเมื่อมีอาการเจ็บปวดช่องท้อง ให้ใช้ที่มีส่วนผสมของดอกป๊อปปี้ซึ่งมีฤทธิ์ช่วยลดปวดเพราะมีโอปิออย์เป็นสารสำคัญ

ขอให้หายไวไวนะครับ

Dr.Randolph

Dr.Randolph

ผู้เยี่ยมชม

ตอบกระทู้
CAPTCHA Image
Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้