สะใภ้เดนมาร์ก

สะใภ้เดนมาร์ก

ผู้เยี่ยมชม

  พยาธิในนกปากขอ (29 อ่าน)

29 ม.ค. 2568 14:13

สวัสดีจากเดนมาร์กค่ะ อาจารย์แก้ว วันนี้ดิฉันมีข้อสงสัยเรียนสอบถามดังนี้ค่ะ

<ol>
<li>ถ้านกมีพยาธิอยู่ในร่างกายจะส่งผลอย่างไรคะ</li>
<li>นกป่าตามธรรมชาติเค้ามีวิธีจัดการกับพยาธิในร่างกายอย่างไรคะ</li>
<li>หากนกเลี้ยงเพศเมียผสมติดแล้วกำลังจะออกไข่ ถ้าเราให้ยาถ่ายพยาธิไป จะส่งผลอย่างไรคะ</li>
<li>ขอคำแนะนำ ความถี่ รวมถึงวิธีการถ่ายพยาธิสำหรับนกเลี้ยง ค่ะ</li>
</ol>


ขอบคุณมากค่ะ

ขอให้อาจารย์แก้วมีความสุข สุขภาพแข็งแรง ตลอดปีและตลอดไปค่ะ

สะใภ้เดนมาร์ก

สะใภ้เดนมาร์ก

ผู้เยี่ยมชม

อ.แก้ว

อ.แก้ว

ผู้เยี่ยมชม

29 ม.ค. 2568 21:09 #1

การมีพยาธิในนกไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่มนุษย์หรือสัตว์จะปลอดจากพยาธิภายในได้เลยครับ แต่นั่นทำให้สัตว์พัฒนาตัวเองและเรียนรู้ตามธรรมชาติ เช่น สร้างระบบภูมิคุ้มกันเพื่อให้ต้านพยาธิเหล่านั้นได้ ดังนั้นโรคพยาธิภายในในนกจึงไม่ใช่โรคสำคัญที่จะทำให้เสียชีวิตได้อย่างรวดเร็วและรุนแรง ในนกป่าจะมีระดับความทนต่อการติดเชื้อได้มากกว่าตัวที่ไม่เคยติดเชื้อหรือนกเลี้ยงที่ปลอดโรคมาก่อน ซึ่งจะมีอาการปกติขณะที่นกเลี้ยงอาจเกิดอาการต่างๆ รุนแรง แต่มักไม่ถึงตาย ในตำราหลายเล่มด้านอายุรศาสตร์ของสัตว์ปีก จึงแนะนำว่าเมื่อพบไข่พยาธิในมูลนก ถือเป็นเรื่องปกติ ไม่ได้ให้ตื่นตระหนก ให้ไปหาสาเหตุอื่นๆที่น่าจะสำคัญกว่า จะได้ไม่พลาดในการวินิจฉัยแต่ไม่ทิ้งประเด็นการพบไข่หรือตัวอ่อนพยาธิไปเลย อย่างไรก็ตาม พยาธิในระดับที่พบเป็นจำนวนมาก หรือเรียกว่า heavy infestration จะเกิดอันตรายได้ เพราะหลายชนิดจะมีการเคลื่อนที่ไปยังอวัยวะอื่นๆในร่างกายได้ เช่น ตับ ถุงลม ปอด ทำให้เกิดการอักเสบได้ หรือเกิดลำไส้อืด เกิดการอุดกั้นของทางเดินอาหาร และปัญหาที่พบได้อย่างแน่นอนคือการทำให้การเจริญเติบโตลดลงหากมีเป็นจำนวนมาก ยังรบกวนสุขภาพและเสี่ยงต่อการเกิดโรคแทรกซ้อน และไปถึงคุณภาพไข่จากสุขภาพที่แย่ลง ในรายที่พบมากก็ทำให้ตายได้

ยากำจัดพยาธิมีหลายชนิด บางชนิดมีผลต่อไข่ บางชนิดขึ้นกับขนาดของการใช้ ผมจะยกตัวอย่างเช่น albendazole เพราะเป็นยากำจัดพยาธิที่ได้ผลทั้งตัวกลม ตัวตืด ถ้าใช้โดสขนาดสูง แต่จะเป็นผลทำให้อัตราการฟักไข่ลดลง แต่ในขนาดโดสที่ต่ำลงจะยังได้ผลกับพยาธิตัวกลม และไม่มีผลต่อไข่ เช่น ขนาดไม่ควรเกิน 10 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม แต่ในนกแก้วจะใช้ขนาดที่สูงจึงไม่เหมาะหรือระมัดระวัง

ยาที่ใช้ในนกมีเยอะมากๆ ครับ ตัวที่แนะนำทีมีขายในร้านขายยาสัตว์ เช่น fenbendazole ได้ทั้งตัวตืด ตัวกลม ใบไม้ เหมือน albendazole จะมีขนาดระบุในผลิตภัณฑ์ เลือกใช้ขนาดต่ำในช่วงที่แนะนำตามฉลากแต่ให้หลายวันจะมีผลต่อการกำจัดทั้งตัวกลม ตัวตืด และใบไม้ได้ เช่นกินต่อเนื่อง 3-5 วัน ต้องระวังยาชนิดนี้มีผลข้างเคียงกับกลุ่มนกเขานกพิราบ การถ่ายพยาธิจะทำทุก 3-6 เดือนในนกเลี้ยง

นอกจากการสร้างภูมิคุ้มกันแล้ว มีอีกหลายประการที่กล่าวถึงกัน ได้แก่ การพัฒนาการด้านพฤติกรรม เช่น พบว่าสัตว์หลายชนิดจะทราบแหล่งที่มีการปนเปื้อนไข่พยาธิหรือมูลสัตว์ชนิดอื่นๆ ที่สามารถติดต่อกันได้ตามธรรมชาติ รวมทั้งทำให้ขนาดของฝูงเล็กลงจะเป็นการลดโอกาสระบาดของพยาธิ หรือการอพยพไปแหล่งอื่นๆ และเคลื่อนย้ายฝูงตลอดฤดูกาล ความทนทานและภูมิคุ้มกันที่มีต่อพยาธินั้นๆ การกำจัดพยาธิในสัตว์ป่าจึงไม่แนะนำให้ทำแบบสมบูรณ์ที่เรียกว่า chemosterilization เพราะจะปลอดภูมิคุ้มกันได้ และสัตว์ป่ามีโอกาสติดเชื้อซ้ำ หรือ reinfection จะทำให้เกิดอาการรุนแรงเพราะขาดภูมิคุ้มกันได้ ต่างจากนกเลี้ยง และพบว่าทั้งนกและสัตว์มีวิวัฒนาการเรียนรู้ในการเลือกพืชหรือสมุนไพร นกแก้วจะกินดินโป่งบางชนิด และใช้เคลือบกระเพาะอาหารได้ แมวจะกินพืชกระตุ้นให้อาเจียน ลิงจะสามารถเลือกพืชกลุ่มอัลคาลอยด์ที่มีฤทธิืกำจัดเชื้อพยาธิได้ เป็นต้น

ขอบพระคุณสำหรับคำอวยพรนะครับ ขอให้เกิดผลบุญกับทุกๆคน ขอให้มีความสุขความเจริญถ้วนหน้าด้วยเทอญ

อ.แก้ว

อ.แก้ว

ผู้เยี่ยมชม

ตอบกระทู้
CAPTCHA Image
Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้