42 จำนวนผู้เข้าชม |
ไข่ค้างในนก ตอนที่ 1
“ รู้ได้อย่างไรว่านกของเรามีภาวะไข่ค้าง ”
โดย สพ.ญ. ชุติกาญจน์ ตะพังพินิจการ (หมอปิ๊ก) โรงพยาบาลสัตว์ขวัญคำ
ภาวะไข่ค้าง (Egg retention) คือ ภาวะที่ไข่ไม่สามารถเคลื่อนผ่านท่อนำไข่ออกมาได้ตามปกติ ถือว่าเป็นภาวะที่ค่อนข้างฉุกเฉิน เนื่องจากไข่ที่ติดค้างสามารถไปกดทับอวัยวะภายในช่องท้อง ถุงลม ปอด รวมถึงหลอดเลือดต่าง ๆ ได้ ดังนั้นถ้าน้องนกมีอาการที่ผิดปกติ เหมือนจะมีภาวะไข่ค้างควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัย และทำการช่วยเหลือทันที
สำหรับสาเหตุของภาวะไข่ค้างนั้นแตกต่างกันไปในแต่ละสายพันธุ์ และมักเป็นสาเหตุที่มีหลายปัจจัยร่วมกัน เช่น การขาดสาอาหาร ภาวะแคลเซียมต่ำ
การทำงานของกล้ามเนื้อเรียบของท่อนำไข่ หรือมดลูกบกพร่อง การติดเชื้อ การได้รับความเสียหาย การฉีกขาดที่บริเวณท่อนำไข่ การอุดตันของบริเวณท่อนำไข่ เช่น มีก้อนเนื้อ ไข่มีขนาดใหญ่มากเกินไป ความผิดปกติของไข่ เช่น เปลือกไข่บางเกินไป ไม่มีเปลือกไข่ ความเครียด เช่น สภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม อุณหภูมิที่นกอาศัยอยู่ร้อนหรือเย็นเกินไป อ้วนเกินไป การวางไข่ที่บ่อยเกินไป ความผิดปกติของระบบสืบพันธุ์อื่น ๆ
โดยปกติแล้วระบบสืบพันธุ์ของนกเพศเมียจะมีการสร้างไข่ ดังนี้ เริ่มจากบริเวณรังไข่ (Ovary) จะมีการตกไข่ สร้างเป็นในส่วนของไข่แดงออกมา หลังจากนั้นไข่แดงจะเคลื่อนไปยังท่อนำไข่ ซึ่งจะแบ่งเป็น 5 ส่วน แต่ละส่วนจะมีหน้าที่ต่างกัน คือ บริเวณแรกจะเป็นท่อนำไข่ส่วนอินฟันดิบูลัม (Infundibulum) มีหน้าที่รับไข่แดงที่มาจากรังไข่ และเป็นจุดที่เกิดการปฏิสนธิ ต่อมาคือท่อนำไข่ส่วนแมกนัม (Magnum) เป็นบริเวณที่สร้างไข่ขาว หลังจากนั้นจะเป็นท่อนำไข่ส่วนอิสท์มัส (Isthmus) ทำหน้าที่สร้างเยื่อหุ้มไข่ ส่วนบริเวณมดลูก (Uterus) จะทำหน้าที่ในการสร้างเปลือกไข่ และสุดท้ายคือช่องคลอด (Vagina) เป็นบริเวณที่มีการส่งออกไข่ออกจากร่างกาย
แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่านกของเรามีภาวะไข่ค้างหรือไม่
เจ้าของสามารถสังเกตุอาการของน้องนกของเราช่วงที่อยู่ที่บ้านได้ว่ามีอาการเหล่านี้หรือไม่ โดยอาการของนกที่มีภาวะไข่ค้างที่สามามารถพบได้ คือ
ในนกสายพันธุ์ที่มีขนาดเล็ก มักจะพบอาการซึมแบบฉับพลัน หายใจลำบาก ขนฟู ตาหรี่ปิด คลำตรงบริเวณท้องดูใหญ่ผิดปกติ ในบางตัวสามารถคลำเจอไข่ได้
ในนกสายพันธุ์ที่มีขนาดใหญ่ ส่วนใหญ่จะเห็นว่านั่งเอาท้องชิดพื้น ในบางตัวอาจพบอาการขาถ่างกว้างมากกว่าปกติ อ่อนแรง เบ่งอุจจาระบ่อย อึกองขนาดใหญ่ขึ้น หรืออาจจะพบอึเปรอะเลอะก้น ร่วมกับมีอาการหายใจลำบากร่วมด้วย
เมื่อนกของเราแสดงอาการเหล่านี้ควรที่จะพาไปพบสัตวแพทย์ทันทีเพื่อทำการตรวจวินิจฉัยต่อไปว่ามีภาวะไข่ค้างจริงหรือไม่ สำหรับแนวทางในการตรวจวินิจฉัยสามารถทำได้โดย
1. การซักประวัติของนกจากเจ้าของที่เลี้ยงดู
2. การตรวจร่างกาย
3. การตรวจทางห้องปฏิบัติการ ได้แก่ การตรวจทางรังสีวินิจฉัย (X-ray) เพื่อประเมินรูปร่าง ขนาด ลักษณะของไข่ว่ามีความผิดปกติหรือไม่ อาจจะใช้ดูลักษณะความหนาแน่นของกระดูกนก และสภาพร่างกายโดยรวมของนกร่วมด้วย ต่อมา คือการตรวจอัลตราซาวน์ (ultrasound) เพื่อใช้ประเมินในกรณีที่ x-ray แล้วไม่พบการสร้างของเปลือกไข่ แต่มีความผิดปกติของบริเวณช่องท้อง หรือใช้ประเมินโครงสร้างของตัวระบบสืบพันธุ์ในนกได้ และสุดท้าย คือการตรวจเลือด ในนกบางตัวอาจจะพบภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำได้
แหล่งที่มา:
1. Vavlas, A., Galusha, H., Mayer, J., Speer, B., & Di Girolamo, N. (2025). Resolution of egg binding is possible in most client-owned parrots when multiple treatment strategies are considered. Journal of the American Veterinary Medical Association, 263(5), 628–634. https://doi.org/10.2460/javma.24.11.0749
2. Chitty, J., & Monks, D. (Eds.). (2018). BSAVA manual of avian practice: A foundation manual. British Small Animal Veterinary Association.
3. Samour, J. (Ed.). (2016). Avian medicine (3rd ed.). Elsevier.
4. König, H. E., Korbel, R., & Liebich, H.-G. (2016). Anatomy of birds (C. Klupiec, Trans.). 5m Publishing. (Original work published 2009
5. Reddy, B. S., & Sivajothi, S. (2018). Egg binding in Budgerigar (Melopsittacus undulatus) – an emergency condition. International Journal of Avian & Wildlife Biology, 3(5), 352–353. https://doi.org/10.15406/ijawb.2018.03.00137