มีอยู่สองโรคที่น่าสงสัยที่พบบ่อยในกระต่ายครับ ได้แก่ การติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ มักจะเกี่ยวข้องกับตาคอหูจมูก คือมีน้ำมูกน้ำตา และเกิดการอักเสบของช่องหูส่วนกลางและส่วนในจนไปถึงกล่องหูหรือทิมพานิกบูลล่า จะมีผลต่อการทรงตัว การเดิน ตากระตุก และหัวเอียง อย่างใดอย่างหนึ่งหรือเป็นทุกอย่าง เพราะเป็นระบบประสาทช่องหูและมีผลต่อส่วนเวสตริบูล่าส่วนปลาย เรียกว่าโรค peripheral vesibular พวกนี้เป็นอวัยวะของระบบประสาท
และอีกโรคที่พบได้เยอะมากในไทยหรือเกินร้อยละ 70 คือการติดเชื้อไข้สมองอักเสบจากเชื้อเอนเซฟฟาลิโทซูน เป็นโปรโตซัวที่ไปฝังอยู่ในสมองและเกิดปัญหากับระบบประสาทส่วนกลางและเวสตริบูล่าส่วนกลางเช่นเดียวกัน เรียกว่าโรค central vestribular จะเป็นอาการจากสมองส่วนกลาง ตาจะกระตุก และหัวเอียงแต่ต่างกันที่ตำแหน่งที่เกิดโรค อันหนึ่งที่ช่องหูส่วนกลางและใน อีกอันคือสมองเลย
ในกระต่ายอายุมากจะพบอาการที่รุนแรง ส่วนใหญ่นอกจากหัวเอียงตากระตุก และพบว่าเลนส์ตาอักเสบเพราะติดเชื้อแล้ว และพบอัมพฤกษ์อัมพาต หรือระยะแรกเหมือนขาหลังอ่อนแรง ต่อมาก็ไม่สามารถช่วยตัวเองได้ แต่ต้องแยกจากความเสื่อมของร่างกายตามวัยครับ
การตรวจต้องนำกระต่ายไปตรวจคัดกรองโรคระบบทางเดินหายใจด้วยการฟังเสียงและเอกซเรย์ และหากกังวลใจเรื่องติดเชื้อโปรโตซัวให้แจ้งหมอเพื่อของตรวจเชื้อทาง PCR เขาจะนำปัสสาวะที่มีสปอร์ของเชื้อไปตรวจ สมัยก่อนจะเป็นการตรวจภาวะภูมิคุ้มกันก็ทราบผลได้เช่นเดียวกัน เมื่อทราบว่าเป็นสาเหตุอะไรก็จะนำไปสู่การรักษาต่อไป อย่างไรก็ตามในกระต่ายแก่ที่ติดเชื้อโปรโตซัวสมองอักเสบ มักจะไม่ค่อยฟื้นกลับมาสู่ปกติครับ เว้นแต่ร่างกายแต่เดิมยังแข็งแรงมาก ๆ การรักษาจะต้องกินยาเป็นระยะเวลานานเกือบ 1 เดือน แต่บางตัวจะเพียงแค่ทรงตัวได้แต่อาการบางอาการอาจไม่หายขาด เนื่องจากสมองบางส่วนเกิดพยาธิสภาพไปแล้วครับ